ประวัติหลวงปู่ครูบาธรรมมุนี สวนป่าพุทธสถานประดิษฐ์เมธี มหาสารคาม
ท่านบวชเป็นสามเณรขณะอายุได้ 12 ปี ณ พัทธสีมา วัดบูรณะอาณาเขต อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม พระอุปัชฌาย์ คือพระครูปัญญาสารประทิศ ท่านบวชเณรอยู่7ปี แล้วจึงได้ญัตติเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมา วัดสว่างศรีรัตนา อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี โดยมี พระครูดอุดมภ์ปัญญากร หรือ หลวงปู่บุญนาค อุตฺตโม วัดภูกระแต จ.อุดรธานี เป็นพระอุปัชฌาย์
ตั้งแต่วัยเยาว์แล้วที่ตัว หลวงปู่ครูบาธรรมมุนี มีความฝักใฝ่ในธรรม ท่านมักติดตามโยมบิดามารดาไปวัดในวันพระทุกครั้ง คิดตามประสาเด็กตอนนั้นว่าพระสงฆ์องค์เจ้านั้นช่างมีความงดงามเรียบร้อยเสีย เหลือเกิน ทั้งยังเป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้านได้อย่างน่าทึ่ง ชาวบ้านจึงพากันยำเกรงและพากันเคารพนบไหว้ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา หากเราโตขึ้นจะต้องบวชเป็นพระให้ได้ เมื่อได้บวชเข้ามาในร่มกาสาวพัตรแล้ว ก็เริ่มฝึกปฏิบัติ แต่เราก็ต้องเริ่มที่พื้นฐานเสียก่อนก็คือ ต้องเรียน นักธรรม-ตรี-โท-เอก แล้วก็ศึกษาด้านพุทธมนต์ควบคู่กันไป เพื่อจะได้นำมาสงเคราะห์ญาติโยม เพราะในสมัยนั้น ชาวบ้านที่ถูกผีเข้าสิง หรือ ถูกคุณไสยมนต์ดำต่างๆไม่มีหมอที่เก่งจริงรักษาให้หายได้ ชาวบ้านจึงหันหน้ามาให้พระสงฆ์องค์เจ้าบำบัดให้ แต่ถ้าพระไม่ภูมิรู้เรื่องคาถาอาคมเลยจะไปช่วยเหลือญาติโยมได้อย่างไรเล่า
ถ้าเรามีพุทธมนต์หรือคาถาอาคมย่อมช่วยชาวบ้านได้ แต่สิ่งเหล่านี้ในพระพุทธศาสนาเขาไม่เรียกว่าวิชา วิชาในพุทธศาสนาจริงๆคือการเรียนเรื่องสภาวธรรมให้แจ้ง คือ การรู้แจ้งในมรรคผล นิพพาน แต่ศาสตร์พวกนี้เรียกว่าวิชาไม่ได้ ที่ถูกต้องเรียกว่าคาถาอาคมอยู่นอกศาสนา แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้าม พระพุทธเจ้าไม่ได้อนุญาต องค์พระบรมศาสดาชี้ทางว่า ให้ใช้ปัญญา ถ้าหยิบเอาตัวปัญญาในพระคัมภีร์มาใช้แล้วเกิดประโยชน์ต่อหมู่สรรพสัตว์ก็ไม่ ผิด เพราะสงเคราะห์บำบัดแล้วทำให้ญาติสบายใจ ช่วยปลดเปลื้องทุกข์ให้แก่เขาทำให้มีกำลังใจต่อการดำเนินชีวิตต่อไป เพียงไม่ขัดพระธรรมวินัย ไม่ขัดต่อจารีตประเพณี ไม่ผิดกฎหมายมันก็ดีคือความดีในพระพุทธศาสนาเช่นกัน
วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เครื่องรางความรัก เมตตามหานิยม-มหาเสน่ห์ โชคลาภค้าขาย View My Stats