เบี้ยแก้ หลวงพ่อพัก (ภักตร์) วัดโบสถ์ จ.อ่างทอง
หลวงพ่อพัก (ภักตร์) จันทสุวัณโณ วัดโบสถ์ จ.อ่างทอง
หลวงพ่อพัก (ภักตร์) จันทสุวัณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.2425 ที่บ้านท่าขาม ตำบลดอนปรู อำเภอวิเศษชัยชาญ (ปัจจุบันขึ้นกับอำเภอศรีประจันต์ สุพรรณบุรี)
บิดาชื่อ ถมยา มารดาชื่อ พุก บิดาของท่านได้นำท่านไปฝากเรียนหนังสือกับหลวงปู่เถื่อนวัดหลวง ตำบลยี่ล้น อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง จนอ่านออกเขียนได้ ต่อมาเมื่อหลวงพ่อพักอายุครบ 20 ปี ในปีพ.ศ.2445 ท่านจึงอุปสมบทที่วัดอ้อย อำเภอวิเศษชัยชาญ โดยมีหลวงปู่เถื่อน เป็นพระอุปัชฌาย์
หลวงพ่อพัก (ภักตร์) วัดโบสถ์ จ.อ่างทอง
เมื่อท่านอุปสมบทแล้วท่านได้ติดตามท่านเจ้าคุณรัตนมุณี ซึ่งเป็นพระพี่ชายของท่านมาอยู่ที่วัดหงส์ กทม. ได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานอยู่ที่สำนักพระอาจารย์อูฐ 9 พรรษา หลวงพ่อพักท่านก็เชี่ยวชาญทั้งคันถธุระโดยเฉพาะทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน
ต่อมาในปีพ.ศ.2454 หลวงปู่เนตร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ได้มรณภาพ ญาติโยมและชาวบ้านแถบบ้านโคกจันทร์จึงได้มานิมนต์หลวงพ่อพักขอให้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดโบสถ์ และในปีพ.ศ.2455 หลวงพ่อพัก (ภักตร์) ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดโบสถ์
การศึกษาพระเวทย์วิทยาคมนั้น เริ่มแรกท่านได้ศึกษาจากอาจารย์วาตหรือครูวาต ซึ่งเป็นลูกผู้พี่ของท่านเอง เล่ากันว่าอาจารย์วาตหรือครูวาตอดีตเคยเป็นมหาโจรผู้ยิ่งใหญ่แถวเมืองอ่างทองและสุพรรณบุรี และเป็นผู้ที่แก่กล้าและสำเร็จในฌานสมาบัติขั้นสูงถึงกับล่องหนหายตัวได้
เมื่อเข้าสู่วัยชรา ได้ละเลิกและหันหน้าเข้าปฏิบัติธรรม จึงได้ถ่ายทอดวิชาให้แก่หลวงพ่อพักจนหมด โดยเฉพาะวิชาเบี้ยแก้ ตะกรุดโทน ผ้ายันต์แดง ฯลฯ
อาจารย์คนต่อมาคือหลวงปู่บุญ จากเมืองพิจิตร ซึ่งได้ถ่ายทอดวิชาการปลุกเสกเขี้ยวเสือแกะ งาช้างแกะ เล่ากันว่าเขี้ยวเสือแกะและงาช้างแกะ ท่านปลุกเสกจนกระโดดขึ้นมาได้จึงถือว่าเสร็จพิธี
มีเรื่องเล่ากันว่า สิงห์งาแกะของท่านเมื่อพกติดตัวเดินผ่านฝูงวัว ฝูงวัวเหล่านั้นถึงกับแตกตื่นวิ่งหนี แถมมีความโดดเด่นทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี
นอกจากนี้ ท่านยังได้สร้างวัตถุมงคลไว้ให้แก่ศิษย์หลายอย่างด้วยกัน ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย เช่น เหรียญรูปท่านที่มีทั้งเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง แต่เป็นเหรียญที่ค่อนข้างหายาก ตะกรุดโทน,ตะโพนงาแกะ เป็นต้น
ตะกรุดโทนนั้น มีความวิเศษคือ จะเป็นมหาอุด และเป็นเมตตามหานิยม ตะโพนงาแกะของหลวงพ่อพัก ท่านสร้างไว้แจกพวกศิลปิน มีคุณวิเศษทางด้านเมตตามหานิยม เมื่อนำติดตัวจะเป็นมหานิยมแก่ผู้พบเห็น
เบี้ยแก้ หลวงพ่อพัก (ภักตร์) ได้รับความนิยมเป็นที่ยอมรับ 1 ใน 3 ของวงการเกจิอาจารย์เบี้ยแก้เมืองไทย ทั้งอิทธิฤทธิ์ และคุณค่า ในการเสาะแสวงหา มีอานุภาพแห่งการปกป้อง แก้ไขสิ่งเลวร้ายโดยเฉพาะด้านป้องกันคุณไสย ยาสั่ง แก้เหตุร้ายให้กลายเป็นดี แคล้วคลาดปลอดภัยและคงกระพันชาตรี จนเป็นที่ใฝ่หาของผู้สะสม เป็นสุดยอดแห่งเครื่องรางของขลัง ที่มีพุทธคุณครบทุกด้าน
กล่าวกันว่ากรรมวิธีการทำเบี้ยแก้ของหลวงพ่อพักนั้น ท่านจะนำเบี้ยใส่พานทองเหลือง แล้วนำปรอทใส่ขวดเล็กๆ ตั้งอยู่อีกพานหนึ่งวางคู่กันใช้หญ้าคาแห้ง ทำเป็นสะพานต่อจากขวดปรอทถึงตัวเบี้ย และท่านจะนั่งบริกรรมคาถาจนปรอทที่อยู่ในขวด วิ่งออกจากขวดไปตามสะพานหญ้าคาลงสู่ตัวเบี้ยจนได้ตามสูตรที่ต้องการเป็นอันเสร็จพิธี
หลังจากนั้นหลวงพ่อจะใช้ชันโรงอุดใต้ท้องเบี้ยอีกทีหนึ่งแล้ว ปิดทับด้วยตะกรุดที่ม้วนแล้วทุบให้แบน แปะทับบนชันโรง จากนั้นจึงถักเชือกทับอีกทีหนึ่ง การถักเชือกนั้นจะถักเปิดด้านบนของตัวเบี้ยให้เห็นลายหอยเบี้ย การถักห่วงจะมีทั้งเป็นสองห่วง หรือด้านบนหูเดียวก็มี รวมถึงบางตัวอาจจะทำเป็นตะกรุดร้อยเชือกคาดเอว หลังจากถักเชือกเสร็จท่านจะปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง
คุณวิเศษของเบี้ยแก้ สามารถเตือนภัยที่มองไม่เห็นตัว นำติดตัวโดยคาดไว้กับเอว สามารถป้องกัน ภูตผี อาถรรพณ์เวท คุณไสย ยาพิษ ยาสั่งทั้งหลาย ป้องกันผีเข้า ท่านให้เอาเบี้ยแก้แช่น้ำมนต์แล้วอธิษฐาน จากนั้นนำมาประพรมเพื่อแก้สิ่งอัปมงคลทั้งหลาย เมื่อพบกับศัตรูให้เอาเบี้ยแก้ไว้ด้านหลัง เข้าหาเจ้านายให้เอาไว้ด้านข้างขวา เพื่อจีบสาวให้เอาไว้ด้านข้างซ้าย เบี้ยแก้ที่นำมาให้ชมเป็นของคุณกำพล รามอินทรา
หลวงพ่อพัก (ภักตร์) จันทสุวัณโณได้ถึงแก่มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2485 ตรงกับปีจอ รวมสิริอายุได้ 60 ปี 40 พรรษา
คาถากำกับการใช้เบี้ยแก้ ตั้งนะโม ๓ จบ
'อิติปิโส ภะคะวา ยาตรายามดี ได้ยามพระศรี สวัสดีลาโภ นะโมพุทธายะ'
แล้วสวดต่อด้วยคาถาหัวใจเบี้ยแก้ 'อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ พุท ธะ สัง มิ อิ สะ วา สุ'
ข้อมูลโดย http://www.konkao.net
เบี้ยแก้ หลวงพ่อพัก (ภักตร์) วัดโบสถ์ จ.อ่างทอง
วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เครื่องรางความรัก เมตตามหานิยม-มหาเสน่ห์ โชคลาภค้าขาย View My Stats