รักยม ดีทั้งเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ
รักยมเป็นเครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่งที่ประชาชนชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้านนิยมกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย โดยเฉพาะในหมู่พ่อค้าแม่ค้า และคนที่ทำงานกลางคืน แม้กระทั่งนักนิยมพระก็ยังแสวงหากัน เพราะเป็นเครื่องรางของขลังจากวิชาไสยศาสตร์อีกชนิดหนึ่งเล่นกันจนถึงทุกวันนี้
รักยมเป็นรูปเด็กแกะด้วยไม้คู่ หนึ่ง มีลักษณะเป็นเด็กผมจุกยืนกำหมัดทั้งสองข้าง คล้ายกำลังทำท่าชกมวย ตัวที่ชื่อรักนั้น เกจิอาจารย์แกะด้วยไม้รักซ้อน บางตำราก็ใช้ต้น บางตำราก็ใช้รากที่ชี้ไปทางทิศตะวันออก และต้องเป็นรากที่เรียกว่าตายพราย คือตายเองด้วย
ส่วนตัวที่ ชื่อ ยม ก็แกะจากไม้มะยม ใช้ต้นและรากลักษณะเดียวกันกับรากหรือต้นรักซ้อน นั้นแต่มีสีขาว ส่วนตัวที่ทำจากรากรักซ้อนมีสีดำ เมื่ออาจารย์ได้บรรจงแกะรูปเด็กหัวจุกทั้งสองเสร็จแล้ว ก็จะกระทำพิธีปลุกเสกโดยเอารูปแกะกุมารทั้งสองวางลงในขันสำริด ที่มีน้ำมันหอมหรือน้ำมันจันทร์ใส่เตรียม ไว้ก่อนแล้ว อาจารย์จะต้องทำให้เกิดนิมิตในขณะปลุกเสก คือปลุกจนกระทั่งรูปแกะกุมารทั้งสองนั้นลุกขึ้นเต้น และเล่นกันดุจมีชีวิตวิญญาณ แล้ว จึงเป็นอันใช้ได้ ผู้ที่จะให้เจ้ารักเจ้ายมช่วยเหลือในภารกิจของตน ก็นำรักยมพร้อมทั้งน้ำมันหอมนั้นประจุลงในขวดแก้วเล็กๆ ซึ่งมีขนาดพอดีกับ ตัวของรักยมที่จะลงไปอยู่ด้วยกันได้ทั้งคู่ นำติดตัวในเมื่อจะออกจากบ้านไปทำภารกิจนั้นๆ ครั้นเมื่อกลับเข้าสู่เคหะสถานบ้านเรือน ตน ก็นำรักยม เข้าไว้ในที่อันสมควร จัดแจงข้าวปลาอาหารขนมให้รักยมทั้งสองบริโภค ดุจดังเราเลี้ยงเด็กๆ ไว้ในบ้าน
การพูดจากับรักยมนั้นก็ต้องพูดเอง และ ตัวผู้ใช้ตอบเอง ที่เรียกว่า "พูดเองเออเอง"แล้วแต่ปรารถนาสิ่งใดๆ ก็ให้กล่าววาจากับเขาขอให้รักยมช่วยในกิจนั้นๆผู้ใช้จะต้องคอยดูน้ำมันหอม ที่ใส่ในขวดรักยมอยู่เสมอ และระวังอย่าให้แห้งได้ เมื่อจวนจะแห้งหรือน้ำมันจันทร์เหลือน้อย จำเป็นต้องเติมมิให้พร่องลงได้ ท่านว่ารักยมจะขึ้น และให้ผลแก่ตัวเจ้าของดีนัก ทั้งน้ำมันจันทร์ในขวดนั้นเล่าก็ใช้ทาคิ้วทาผมเป็นเครื่องสำอางที่จะยัง เสน่ห์ให้แก่ผู้ใช้เป็นอเนกประการ
ในขณะที่จะ ไปเอารากรักและรากมะยมมากระทำพิธีแกะนั้น ท่านให้เดินทางออกจากบ้านไปแต่เช้าตรู่ ห้ามพูดกับผู้ใดในขณะนั้นเมื่อถึงต้นรักและมะยมที่ หมายตาเอา ไว้ก่อนแล้วก็ลงมือพลี (ขุดและตัดเอารากมา) โดยพูดว่า เจ้ารัก (ยม) เอ๋ย จงไปอยู่กับพ่อ จงช่วยพ่อให้สำเร็จสมปรารถนาเถิด
"นะมะพะทะอาคัจฉายะ อาคัจฉามิ มานี่มะมามา" เมื่อพลีไม้รักหรือไม้ยมมาได้แล้ว ท่านให้วิ่งกลับบ้าน โดยมิให้เหลียวหลังไปดูต้น ไม้นั้นเป็น อันขาด ครั้นเมื่อถึงบ้านแล้วจึงเอา รากรักซ้อนและรากยมนั้นปิดทองคำแผ่นให้งดงาม แล้วเอาคั่นกลางใจบ้าน พลีมาด้วยคาถา นะ มะ พะ ทะ หยิบมือหนึ่ง ห่อด้วยกระดาษว่าว ตั้งไว้หน้ารากรักและยมพร้อมด้วยสำรับกับข้าวเล็กๆ เป็นการบวงบนแด่วิญญาณของ รักยม กระทำดังนั้นแล้ว พอได้เวลาสมควร (กะว่าจุดธูปหมดดอก) จึงนำไม้นั้นไปมอบให้อาจารย์สร้างรักยมต่อไป
วิธีเลี้ยงรักยม
เมื่อท่านมีรักยมมาแล้วควรบูชาเก็บไว้ในบ้านให้ช่วยดูแลทรัพย์สินตอนไม่อยู่บ้าน หรือจะพกติดตัวไปด้วยก็ได้ตามความสะดวกของแต่ละท่าน แต่ก่อนที่จะนำเข้าบ้านเราต้องจุดธูป ๑๖ ดอก บอกกล่าวกับเจ้าที่เจ้าทางในบ้านว่าขออนุญาตเลี้ยงรักยม ขอให้เจ้าที่ เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้รักยม จากนั้นก็จุดธูป ๕ ดอกบอกเรียกรักยมให้เข้าบ้านอาศัยอยู่ด้วยกันมีใครในบ้านก็แนะนำให้รักยมโดยการบอกชื่อว่ามีใครบ้าง การเลี้ยงดู รักยม ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากมากนักโดยเลี้ยงด้วยข้าวไข่ต้ม ขนมหวาน หรืออาหารหยาบแบบที่เราทานทุกวันก็ได้ แต่อย่าให้เหล้าหรือของที่สุกๆดิบๆที่ไม่ผ่านไฟมาก่อน การดูแลส่วนอื่นๆก็ให้น้ำสะอาดทุกวันหรือจะเปลี่ยนให้ทุกวันพระก็ได้ เวลาจะไปไหนมาไหนก็ให้จับขวดรักยม ท่องคาถาบูชารักยม แล้วบอกให้ รักยม ไปด้วยกันทุกครั้งจะดีมากๆ
สรรพคุณของรักยมนั้นก็ตรงตามชื่อคือ รัก+นิยม มีผลทางเมตตามหานิยม มีโชคลาภด้านการเงิน ทำให้ผู้เลี้ยงดูเป็นคนมีเสน่ห์ ใครเห็นใครรัก เสน่หาทันตา เวลามีปัญหาเดือดร้อนแบกหน้าไปพึ่งใครมักจะไม่ผิดหวัง
คาถาบูชารักยม
จิเจรุนิ จิตตัง เจตตะสิกกัง รูปัง กุมาโรวา นิมิตตัง เจ้ารัก เจ้ายม
อาคัจฉาหิ จิตติ เอหิ เอหิ นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ
คาถาบูชารักยมนี้ใช้ปลุกรักยม หากปลุกเสกประจำทุกๆวันอย่าให้ขาดก็จะเพิ่มฤทธิ์ให้แก่รักยม และมีชีวิตชีวาอยู่กับเราตลอดไป ช่วยให้ผู้บูชา ค้าขายดี มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น มีโชคลาภมากมีตลอดไป
ข้อมูลโดย
https://www.tnews.co.th/contents/397475
วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เครื่องรางความรัก เมตตามหานิยม-มหาเสน่ห์ โชคลาภค้าขาย View My Stats